ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง ข้อกำหนดการใช้ส่วนประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดกรดอะมิโน ————————————————- อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4(1) ของประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 293) พ.ศ.2548 เรื่อง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ลงวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2548 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 6(3)(4)(5)(6)(7) และ (10) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 สำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยาโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอาหาร ในการประชุมครั้งที่ 4/2549 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2549 ออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 การใช้ชนิดของกรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ให้ใช้ได้ ไม่เกินปริมาณสูงสุดตามชนิดของกรดอะมิโนหรือกรดอะมิโนที่อยู่ในรูปแบบอื่น ที่กำหนดไว้ในตารางบัญชี รายชื่อส่วนประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดกรดอะมิโนแนบท้ายประกาศนี้ ข้อ 2 ในกรณีที่มีการใช้ชนิดของกรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์เสริม อาหารตามข้อ 1 หลายชนิดรวมกัน ปริมาณรวมของกรดอะมิโนทุกรูปแบบที่เป็นชนิดเดียวกันในแต่ละชนิด จะต้องไม่เกินปริมาณสูงสุดตามที่กำหนดไว้ในตารางบัญชีรายชื่อส่วนประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์เสริม อาหารชนิดกรดอะมิโนแนบท้ายประกาศนี้ ยกเว้นกรดอะมิโนลำดับที่ 2, 3, 12, 13 และ 15 ที่มีการกำหนด ปริมาณสูงสุดรวมกันไว้โดยเฉพาะ ประกาศนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2549 (ลงชื่อ) มานิตย์ อรุณากูร (นายมานิตย์ อรุณากูร) รองเลขาธิการ ปฏิบัติราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (คัดจากราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศและงานทั่วไป เล่ม 123 ตอนพิเศษ 111 ง ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2549) รับรองสำเนาถูกต้อง (นางสาวพัชนี อินทรลักษณ์) นักวิชาการอาหารและยา 8 ว. ตารางบัญชีรายชื่อส่วนประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดกรดอะมิโน แนบท้ายประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง ข้อกำหนดการใช้ส่วนประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดกรดอะมิโน ลำดับ ชื่อชนิดของกรดอะมิโนหรือกรดอะมิโนที่อยู่ในรูปแบบอื่น ปริมาณสูงสุดที่ให้ใช้ตามคำแนะนำให้บริโภค 1วัน (มิลลิกรัม) 1 แอล-ธรีโอนีน (L-threonine) หรือ ดีแอล-ธรีโอนีน (DL-threonine) ไม่เกิน 3501 (คำนวณเป็น แอล-ธรีโอนีน) 2 แอล-ฟีนิลอะลานีน (L-phenylalanine) หรือ ดีแอล-ฟีนิลอะลานีน (DL-phenylalanine) ไม่เกิน 7001 (คำนวณเป็น แอล-ฟีนิลอะลานีน) หรือใช้รวมกับกลุ่มไทโรซีน ปริมาณรวม ต้องไม่เกิน 7001 (คำนวณเป็น แอล-ฟีนิลอะลานีน รวมกับ แอล-ไทโรซีน) 3 แอล-เมไธโอนีน (L-methionine) หรือ ดีแอล-เมไธโอนีน (DL-methionine) หรือ ดี-เมไธโอนีน (D-methionine) ไม่เกิน 6501 (คำนวณเป็นแอล- เมไธโอนีน) หรือใช้รวมกับกลุ่มซิสทีน ปริมาณรวม ต้องไม่เกิน 6501 (คำนวณเป็นแอล-เมไธโอนีน รวมกับ แอล-ซิสทีน) หรือใช้รวมกับกลุ่มซิสเทอีน ปริมาณรวมต้องไม่เกิน 5002 (คำนวณเป็น แอล-เมไธโอนีน รวมกับ แอล-ซิสเทอีน) หรือใช้ กลุ่มเมไธโอนีน รวมกับกลุ่มซิสทีน และกลุ่มซิสเทอีน ปริมาณรวมต้องไม่เกิน 5002 (คำนวณ เป็น แอล-เมไธโอนีน รวมกับ แอล-ซิสทีน และ แอล-ซิสเทอีน) 4 แอล-ลูซีน (L-leucine) หรือ ดีแอล-ลูซีน (DL-leucine) ไม่เกิน 7001 (คำนวณเป็น แอล-ลูซีน) 5 แอล-ไลซีน (L-lysine) หรือ แอล-ไลซีนโมโนไฮโดรคลอไรด์ (L-lysine monohydrochloride) หรือ แอล-ไลซีนไฮโดรคลอไรด์ (L-lysine hydrochloride) หรือ แอล-ไลซีนแอซีเทต (L-lysine acetate) หรือ แอล-ไลซีนแอล-แอสพาร์เทต (L-lysine L-aspartate) หรือ แอล-ไลซีน แอล-กลูตาเมต (L-lysine L-glutamate) ไม่เกิน 6001 (คำนวณเป็น แอล-ไลซีน) 6 แอล-วาลีน (L-valine) ไม่เกิน 5001 7 แอล-อาร์จินีน (L-arginine) หรือ แอล-อาร์จินีนโมโนไฮโดรคลอไรด์ (L-arginine monohydrochloride) หรือ แอล-อาร์จินีนไฮโดรคลอไรด์ (L-arginine hydrochloride) หรือ แอล-อาร์จินีนแอล-กลูตาเมท (L-arginine L-glutamate) ไม่เกิน 10002 (คำนวณเป็น แอล-อาร์จินีน) 8 แอล-ไอโซลูซีน (L-isoleucine) หรือ ดีแอล-ไอโซลูซีน (DL-isoleucine) ไม่เกิน 5001 (คำนวณเป็น แอล-ไอโซลูซีน) 9 แอล-กลูตามีน (L-glutamine) ไม่เกิน 20002 10 แอล-กลูตาไธโอน (L-glutathione) ไม่เกิน 2502
ลำดับ ชื่อชนิดของกรดอะมิโนหรือกรดอะมิโนที่อยู่ในรูปแบบอื่น ปริมาณสูงสุดที่ให้ใช้ตามคำแนะนำให้บริโภค 1วัน (มิลลิกรัม)
11 แอล-คาร์นิทีน (L-carnitine) หรือ แอล-คาร์นิทีน แอล-ทาเทรท
(L-carnitine L- tartrate) หรือ แอล-คาร์นิทีนทาเทรท (L-carnitine
tartrate) หรือ แอล-คาร์นิทีน ฟูมาเรท (L-carnitine fumarate)
ไม่เกิน 5002 (คำนวณเป็น แอล-คาร์นิทีน)
12 แอล-ซิสทีน (L-cystine) ไม่เกิน 6501 (คำนวณเป็น แอล-ซิสทีน) หรือใช้รวมกับกลุ่มเมไธโอนีน ปริมาณรวมต้อง
ไม่เกิน 6501 (คำนวณเป็น แอล-ซิสทีน รวมกับ แอล-เมไธโอนีน) หรือใช้รวมกับกลุ่มซิสเทอีน
ปริมาณรวมต้องไม่เกิน 5002 (คำนวณเป็น แอล-ซิสทีน รวมกับ แอล-ซิสเทอีน) หรือใช้กลุ่ม
ซิสทีนรวมกับกลุ่มเมไธโอนีนและกลุ่มซิสเทอีน ปริมาณรวมต้องไม่เกิน 5002 (คำนวณเป็น
แอล-เมไธโอนีน รวมกับ แอล-ซิสทีน และ แอล-ซิสเทอีน)
13 แอล-ซิสเทอีน (L-cysteine) หรือ แอล-ซิสเทอีนไฮโดรคลอไรด์
(L-cysteine hydrochloride) หรือ แอล-ซิสเทอีนโมโนไฮโดรคลอไรด์
(L-cysteine monohydrochloride)
ไม่เกิน 5002 (คำนวณเป็น แอล-ซิสเทอีน) หรือใช้รวมกับกลุ่มเมไธโอนีน ปริมาณรวมต้อง
ไม่เกิน 5002 (คำนวณเป็น แอล-ซิสเทอีน รวมกับ แอล-เมไธโอนีน) หรือใช้รวมกับกลุ่มซิสทีน
ปริมาณรวมต้องไม่เกิน 5002 (คำนวณเป็น แอล-ซิสเทอีน รวมกับ แอล-ซิสทีน) หรือใช้กลุ่ม
ซิสเทอีนรวมกับกลุ่มเมไธโอนีนและซิสทีน ปริมาณรวมต้องไม่เกิน 5002 ( คำนวณ เป็น แอล-เมไธโอนีน
รวมกับ แอล-ซิสทีน และ แอล-ซิสเทอีน)
14 ทอรีน (Taurine) ไม่เกิน 30003
15 แอล-ไทโรซีน (L-tyrosine) ไม่เกิน 7001 (คำนวณเป็น แอล-ไทโรซีน) หรือใช้รวมกับกลุ่มฟีนิลอะลานีน ปริมาณรวม
ต้องไม่เกิน 7001 (คำนวณเป็น แอล-ไทโรซีน รวมกับ แอล-ฟีนิลอะลานีน)
16 แอล-ออร์นิทีน (L-ornithine) หรือ แอล-ออร์นิทีนไฮโดรคลอไรด์
(L-ornithine hydrochloride) หรือ แอล-ออร์นิทีนแอสพาร์เทต
(L-ornithine aspartate)
ไม่เกิน 5002 (คำนวณเป็น แอล-ออร์นิทีน)
ที่มา: 1 World Health Organization. Technical Report Series 724 Energy and Protein Requirement. Report of a joint FAO/WHO/UNU Expert Consultation.
Geneva 1985: 64-6.
2 ปริมาณสูงสุดที่ได้รับอนุญาตในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
3 Sheldon Saul Hendler, David Rorvik. PDR® for Nutritional Supplement™. 2001.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข